พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเคียงจู
จาก ถ้ำเก็บน้ำแข็งซ็อกบิงโก (Seokbinggo Ice Storage) ขึ่จักรยานตรงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกใหญ่ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปตามทางนิดนึง จะมาถึงยัง พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเคียงจู (Gyeongju National Museum)
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเคียงจู |
ค่าเข้าชม ฟรี!! แต่ต้องเดินไปรับบัตรตรงทางเข้าก่อน |
เปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 9.00-19.00 น. ส่วนวันเสาร์ช่วงเดือน มี.ค. - ธ.ค. จะเปิดให้ชมจนถึง 21.00 น. |
ก่อนจะเข้าชมยังอาคารหลัก มายังจุดแรกกันก่อนที่หอระฆังด้านหน้า |
มีระฆังยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อว่า "ระฆังเอมิลเล่" ที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ น้ำหนักกว่า 20 ตันและมีความสูงถึง 3.4 เมตร ระฆังนี้ สร้างโดยกษัตริย์ Hyegong เมื่อปี ค.ศ.771 |
จากนั้นก็มาเข้าชมกันที่ตัวอาคารหลักกันต่อเลย (อาคารรูปที่ 2 จากด้านบน) เค้าจะไล่ตั้งแต่สมัยยุคหิน มีการนำหินต่างๆ มาสกัดทำเป็นอาวุธ เช่น หอกหิน |
ดาบเหล็กที่หล่อจากทองสำริด |
บางอันก็สภาพเก่ามาก สนิมขึ้นเกรอะ ตามกาลเวลา |
ต่อมาก็เป็นพวกเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ |
ตุ๊กตาดินเผาเป็นรูปสัตว์ |
รูปคนสมัยก่อน เค้าก็ปั้นได้น่ารักดีเหมือนกันนะ 555 |
อันต่อมาเห็นบ่อยตามโบรชัวร์ท่องเที่ยว เป็นเชิงเทียนรูปมังกร |
ตู้ต่อมาเป็นเครื่องประดับจำพวกแหวน ทำด้วยทองคำแท้ๆ สภาพสมบูรณ์มากๆ |
แล้วก็มาถึงตู้ที่ดูโดดเด่นที่สุดในนี้ ก็คือ แผ่นรองอานม้า รูปม้าบิน 8 ขา เหมือนที่ สุสานทูมูลี แต่สภาพดูดีกว่าเยอะ เห็นรายละเอียดได้ชัดเจน |
ต่อมาอีกหนึ่งชิ้นไฮไลท์กับมงกุฎทองคำ ของกษัตริย์สมัยราชวงศ์ชิลล่า เหมือนที่เราเห็นในหนังเกาหลีย้อนยุคเรื่อง ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน |
จากนั้นก็ออกไปยังตู้ใหญ่ด้านนอกห้องเป็นตู้ที่วางเรียงเครื่องประดับแบบครบเซ็ททั้งตัว จากบนลงล่าง ตั้งแต่มงกุฎ สร้อยคอ เข็มขัด กำไร แหวน และอื่นๆ อีกเพียบ ใส่หมดตัวนี้คงหนักน่าดู |
ก่อนจะลงจากตึกใหญ่ แวะกันที่จุดสุดท้ายก่อนที่ภาพวาดฝาผนังสมัยยุคหิน |
บอกเล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ของมนุษย์ในยุคโบราณ การล่าสัตว์ การดำรงชีวิตต่างๆ หาดูได้ยากเลยทีเดียว |
จากอาคารหลักออกไปทางด้านซ้ายมือจะเป็นอาคารทีจัดแสดง งานศิลปะตามแต่ละเทศกาลต่างๆ |
มีรูปวาดสมัยโบราณมาให้ชมกันด้วย |
อาคารด้านหลังก็จะเป็น Art Hall แสดงพระพุทธรูปต่างๆ ที่สลักจากหิน และงานศิลปะอื่นๆ |
ใกล้ๆ กันนั้นก็จะมีเจดีย์เก่าแก่อยู่ 2 องค์ |
จำลองมาจากทาง วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple) โดยมีขนาดเทียบเท่าใกล้เคียงกับองค์จริง แนะนำให้ใช้เวลาที่พิพิธภัณฑ์นี้จนถึงประมาณ 5 โมงเย็นจากนั้นค่อยเดินทาง ไปเที่ยวที่ สระอันอั๊บจิ๊ (Anapji Pond) กันต่อใกล้ๆ |