Bookmark and Share

วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560

วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple)



วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple)

วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple) วัดเก่าแก่แห่งอาณาจักรชิลล่า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.535 คำว่า "พุลกุกซา" นั้น หมายถึง ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา วัดนี้มีความสวยงามมากจนได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การ UNESCO ในปีค.ศ.1995 และถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเคียงจูโดยเฉพาะฤดูใบไม้เปลี่ยนสี 

เวลาเปิดปิด : 7.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม : 4,000 วอน


วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple)


วัดพุลกุกซานี้ เดินทางง่ายๆ จากตัวเมืองเคียงจูด้วยรถเมล์
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (วิธีเดินทางไปวัดพุลกุกซา)

เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 7.00 - 17.00 น.
ซื้อบัตรเข้าชมกันก่อน ราคา 4,000 วอน

ช่วงใบไม้แดงนี้ นักท่องเที่ยวเยอะมาก
มีนักเรียนชาวกิมจิมาทัศนศึกษากันด้วย

ด้านหน้าก่อนเข้าบริเวณวัด จะมีสะพานหิน Haetalgyo ข้ามสระน้ำแห่งปัญญา

มีท้าวจตุรโลกบาลทั้ง 4 เป็นยามเฝ้าประตูทางเข้า เหมือนวัดทั่วๆไปในเกาหลี

ข้ามประตูไปไม่ไกล ก็เข้ามาถึงจุดไฮไลท์หลักของวัด

..กับมุมมหาชน วิวใบไม้แดง ตัดกับตัวโบสถ์ขนาดใหญ่ ที่มีบันไดหินขนาดยักษ์
เชื่อมต่อไปด้านบน โดยบันได2 ข้างซ้ายขวานี้ มีชื่อว่า บันไดเมฆคราม (Cheongungyo) และ บันไดเมฆขาว (Baekungyo) มุมนี้ถือเป็นมุมเด็ดที่ทุกคนต้องมาถ่ายภาพกันเลย ไม่งั้นมาไม่ถึง..อิอิ

ขอแดงๆ ซักรูป สวยงามมากมาย เกินคำบรรยาย

จากนั้นแวะล้างมือให้สะอาดกันก่อนขึ้นไปไหว้พระด้านบนกัน
น้ำใสสะอาด เย็นเจี๊ยบบบ..

เดินขึ้นไปยังด้านบน โดยทางเดินด้านข้างขวา (ไม่สามารถขึ้นบันไดหินโดยตรงได้)


ผ่านประตูวัด เข้าไปด้านในกันเลย

บริเวณโดยรอบรั้วด้านในจะเป็นทางเดินสวยๆ แบบศิลปะเกาหลี

ส่วนตรงกลางนั้น จะเป็นลานโบสถ์และเจดีย์เก่าแก่ สัญลักษณ์ของวัดอีกอย่างนึง

เจดีย์ทั้ง 2 องค์นี้ (องค์หลังกำลังบูรณะอยู่) มีชื่อว่าเจดีย์ Seoktap และ Dabotap
เป็นอันเดียวกับที่มีการจำลองไปไว้ที่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเคียงจู

หลังจากชมเจดีย์กันแล้ว เข้าไปไหว้พระประธานในโบสถ์เพื่อความเป็นศิริมงคลกัน

ต่อไปก็มาเดินชมบริเวณวัดสวยๆ กันต่อ มีที่ให้ชมกันอีกเยอะ

จากทางเดินโดยรอบด้านบน จะสามารถเดินทะลุออกมายังด้านหน้ายังระเบียงของบันไดหินได้ จะได้มุมถ่ายรูปจากด้านบนสวยๆ อีกมุมหนึ่ง

จากนั้นก็มาเดินรอบโบสถ์ไปยังด้านหลังเพื่อชมกับบรรยากาศใบไม้แดงสวยๆกันต่อ



ช่วงเวลาที่ใบไม้แดงจัดๆ ที่เคียงจูอย่างตอนนี้
คือช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

แดดดี แต่ไม่ร้อนเพราะอากาศเย็น เดินสบายมาก

กำแพงด้านหลัง จะมีมุมตั้งหิน ตามความเชื่อของคนเกาหลี
เขาว่ากันว่า ให้ขอพรแล้วตั้งหินให้ได้สูงๆ แบบไม่ล้ม พรนั้นจะเป็นจริง

ก่อนกลับ แวะช้อปกันได้ที่ร้านขายของที่ระลึกของวัด

มีรูปภาพและของฝากที่ค่อนข้างหายากขายมากมาย
ใครสนใจอันไหนแนะนำว่า ให้ซื้อเลย ตามกำลังทรัพย์
ราคาสามารถต่อได้ แถมได้